12/03/2555

น้ำมันเบรค

ขณะรถยนต์เคลื่อนที่ เราต้องการจะหยุดการเคลื่อนที่ของรถยนต์ เราจะต้องเหยียบเบรคเพื่อให้รถชะลอ หรือหยุด แล้วรถมันหยุดได้อย่างไร การทำงานของเบรคเริ่มจาก เหยียบแป้นเบรค แป้นเบรคจะเป็นแท่งซึ่งด้านหลังจะมีก้านอยู่ เวลาเหยียบก้านนี้นั้นจะไปดันให้น้ำมันเบรคที่อยู่ในปั้มเบรคบน(ไม่รวมหม้อลมเบรคนะ) ดันไปยังปั้มเบรคล่าง ซึ่งปั้มเบรคล่างนี้จะมีลูกสูบเบรคอยู่ พอน้ำมันเบรคเข้าไปดันทำให้ลูกสูบเบรคไปกดผ้าเบรคให้ติดกับผ้าเบรคตามระยะของแรงกด พอจานเบรคเริ่มเกิดการเสียดสีกับผ้าเบรคล้อก็จะหมุนช้าลง นี่คือขั้นตอนการทำงานระบบเบรคแบบง่ายๆ ตามรูป
ส่วนระบบเบรคโดยละเอียดก็แล้วแต่รถยนต์ยี่ห้อ และรุ่นนั้นๆว่าจะสร้างให้มีระบบอะไรบ้างแตกต่างกัน แต่หลักการหลักๆก็เป็นอย่างข้างต้น 
น้ำมันเบรคก็เป็นของเหลวชนิดหนึ่งซึ่งเอาไว้ส่งถ่ายแรงจากเท้าเราไปยังลูกสูบปั้มเบรคล่าง(คาลิเปอร์) ซึ่งเวลาเราเบรคนั้นเมื่อผ้าเบรคมีส่วนผสมของโลหะกับจานเบรคที่เป็นโลหะเสียดสีกัน ก็จะทำให้เกิดความร้อนสะสม ดังนั้นการเลือกน้ำมันเบรค ควรใช้ให้มีมาตราฐาน เพราะถ้าน้ำมันเบรคเกิดเดือดขึ้นมา ก็เหมือนของเหลวทั่วไปเมื่อเกิดการเดือด นั่นคือจะกลายเป็นไอ พออยู่ในสถานะของไอแล้ว คุณสมบัติของเหลวไฮดรอลิค ก็จะหายไป ทำให้ไม่สามารถส่งถ่ายแรงได้ พอส่งถ่ายไปไม่ได้ลูกสูบเบรคล่างก็จะไม่ถูกกดด้วยแรงที่ควรจะเป็น ทำให้ประสิทธิภาพหายไป 

การเลือกน้ำมันเบรคที่เหมาะสม 
สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของอเมริกา(SAE) และกรมการขนส่งของอเมริกา(DOT) และสมาคมกำหนดมาตราฐานระหว่างชาติ(ISO)  ต่างก็กำหนดมาตราฐานของน้ำมันเบรคไว้ มาตราฐานล่าสุดตอนนี้คือ SAE 1703 Jan'80 ส่วน DOT นั้นคือมาตราฐาน  U.S.Federal Motor Vehicle Safety Standard (FMVSS) No.116 Dot3 Dot4 Dot5  ISO คือ 4925-1978
คุณสมบัติน้ำมันเบรคที่มีผลต่อการเบรคคือ จุดเดือด เมื่อแห้งหรือชื้นผลต่อยางแม่ปั้มและลูกสูบปั้มล่าง และต่อชิ้นส่วนต่างๆของระบบเบรค
เราจะเลือกน้ำมันเบรครถยนต์จากมาตราฐาน DOT กัน ที่นิยมมี DOT3 DOT4 DOT5 
DOT5 นี้นั้นจุดเดือดสูงมากที่สุด แต่เนื่องด้วยตัว base เป็นซิลิโคน ทำให้ไม่เกิดการรวมตัวกับน้ำ รถยนต์ที่ใช้วิ่งตามท้องถนน ก็ต้องเจอหลากหลายสภาวะ แน่นอนว่าความชื้นต้องเข้าไปบ้างอยู่แล้ว แล้วถ้าน้ำมันเบรคเราไม่รวมตัวกับน้ำบ้างเลย ก็เกิดมีน้ำในระบบและน้ำจุดเดือดต่ำกว่าน้ำมันเบรคมากพอเกิดความร้อนก็กลายเป็นไอ ทำให้เกิดแรงดันในระบบ แรงดันนี้อาจจะไปดันให้น้ำมันเบรคไปค้างกับลูกสูบปั้มล่าง(คาลิเปอร์) ก็เป็นได้ หรืออาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเบรคอย่างอื่น เช่น สายน้ำมันเบรคแตกก็เป็นได้
DOT3 และ DOT4 ขออธิบายทีเดียว 2 ตัวนี้ใช้ในชีวิตประจำวันปกติได้ทั้งสิ้น เพราะทั้ง2เกรดนี้มีการรวมตัวกับน้ำได้บ้าง สิ่งที่แตกต่างกันคือ จุดเดือด เมื่อมีการรวมตัวกับน้ำ ดังรูป 

ถ้าเป็นผมเลือกเองผมก็คงเลือก DOT 4 เพราะจุดเดือดค่อนข้างสูง เมื่อเกิดความชื้นในระบบ เราเองไม่สามารถรู้ได้ว่าความชื้นในระบบเรามีกี่เปอร์เซ็นต์ ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆก็ดีใช่ไหมครับ ส่วน DOT3 ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เราก็ควรมั่นตรวจสอบอายุการใช้งานสักหน่อยครับ

หวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ในการที่จะเลือกซื้อน้ำมันเบรคนะครับ ส่วนยี่ห้อแล้วแต่ชอบครับอ่านข้างขวดก่อนว่า มาตราฐานอะไร(ปกติ DOT) แล้วเลือกตามการใช้งานของท่านเลยครับ ส่วนถ้าไปซื้อเองที่ร้านอ่ะไหล่ยนต์ ก็บอกว่า "ซื้อน้ำเบรค ยี่ห้อ... DOT... " ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างครับด้านล่างเขียน DOT4  ขนาด 1 ลิตร
***สำคัญมาก น้ำมันเบรคมีคุณสมบัติกัดกร่อนสีรถยนต์นะครับ ถ้าเติมเองระวังหก โดนสีรถยนต์นะครับ ทางที่ดีเวลาเติมเอง ให้เตรียมน้ำเปล่าไว้ใกล้ๆด้วยครับ ถ้าพลาดเทหกแล้ว เอาน้ำเปล่าที่เตรียมไว้เทตามไปที่จุดที่หกเลยครับ***
                        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น